การโอนหนี้บัตร หรือการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต เป็นการกู้เงินก้อนใหม่เพื่อนำมาชำระหนี้เงินก้อนเก่าที่เกิดจากบัตรเครดิต เป็นวิธีการปรับโครงสร้างหนี้ให้ดีขึ้น แม้ว่าจะมีบัตรเครดิตหลายใบก็สามารถนำวงเงินที่เป็นหนี้มารวมกันเป็นเงินก้อนเดียวเพื่อความสะดวกในการปรับโครงสร้างหนี้ให้ง่ายต่อการชำระได้ ทั้งนี้โดยไม่ต้องมีหลักประกันในการขอสินเชื่อประเภทนี้ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วสินเชื่อประเภทนี้ก็จะมีอัตราดอกเบี้ยที่ถูกว่าสินเชื่อบัตรเครดิตอยู่แล้ว ทั้งนี้เพื่อเป็นการลดภาระการชำระหนี้จากการใช้บัตรเครดิต นับว่าเป็นการโอนหนี้บัตรไปยังสถาบันการเงินเพื่อเป็นการปรับโครงสร้างหนี้ใหม่สำหรับผู้เป็นหนี้บัตรเครดิต ซึ่งเป็นทางออกอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยลดภาระสำหรับผู้เป็นหนี้บัตรเครดิตอีกวิธีหนึ่ง
การรีไฟแนนซ์ หรือการโอนหนี้บัตร ถือเป็นอีกวิธีการขอสินเชื่อที่มีประโยชน์มากมาย โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีหนี้สินจากบัตรเครดิต และมีความรู้สึกว่าหนี้ที่มีอยู่นั้นมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงซึ่งต้องชำระรายเดือนและเริ่มจะมีปัญหาในการชำระคืน และต้องการที่จะขอปรับโครงสร้างด้วยการรีไฟแนนซ์หนี้เก่าเพื่อการปรับอัตราดอกเบี้ยในต่ำลง ตลอดจนผู้ที่ต้องการจะเคลียร์ยอดหนี้ที่ยังค้างชำระจากบัตรเครดิตเพื่อต้องการเริ่มชีวิตใหม่ไร้หนี้สิน ต้องมาพิจารณากันก่อนว่าการจะโอนหนี้บัตร หรือการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตนั้นจะมีอะไรบ้าง
การโอนหนี้บัตร หรือการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต เป็นการกระทำที่ถูกต้องซึ่งเมื่อต้องการที่จะเข้าสู่วิธีการนี้ เราต้องมีการวางแผนทางการเงินของเราให้ดีและรอบคอบ โดยการอุดช่องโหว่ทางการเงินให้หมดหรือเหลือน้อยที่สุดเพื่อให้เหลือเฉพาะรายจ่ายที่จำเป็นจริง ๆ เท่านั้น ซึ่งขั้นตอนการขอสินเชื่อเพื่อการโอนหนี้บัตรหรือการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตจะมีรายละเอียดโดยสังเขปดังนี้
การรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต หรือการโอนหนี้บัตร ต้องใช้เอกสารในการขอสินเชื่อเพื่อทำสัญญาเงินกู้ใหม่ ดังนี้
จากการพิจารณาการกู้ใหม่เพื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตหรือการโอนหนี้บัตรจะสรุปกับธนาคารไหน หรือกู้กับธนาคารไหนดีที่สุด เมื่อพิจารณาจากดอกเบี้ยและเงื่อนไขต่าง ๆ เปรียบเทียบกันแล้วเราก็ต้องเลือกกู้กับธนาคารที่ให้เงื่อนไขกับเราดีที่สุด ซึ่งโดยปกติแล้วในอัตราดอกเบี้ยถูกที่สุดจะอยู่ที่ 11.84% ต่อปี และอาจมีการผ่อนได้นานถึง 24 เดือนหรือเป็นเวลาถึง 2 ปี โดยสมมุติว่าเงินต้นที่เรากู้มาใหม่ 100,000 บาท เพื่อนำมารีไฟแนนซ์หรือเพื่อนำมาโอนหนี้บัตรเราก็จะผ่อนไม่เกินเดือนละ 5,000 บาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่ไม่สูงจนเกินไป ถ้าเปรียบกับอัตราดอกเบี้ยจากการผ่อนก่อนที่จะรีไฟแนนซ์ หรือโอนหนี้บัตรมาเป็นวงเงินใหม่ นอกจากนั้นยังมีธนาคารที่เสนอให้เลือกอัตราดอกเบี้ยต่ำสุดที่ 9% ต่อปีอีกด้วย เพื่อแลกกับการผ่อนภายใน 1 ปี ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ดีที่สุด และเป็นเงื่อนไขที่น่านำมาพิจารณาที่สุด
ที่มีเงื่อนไขที่ดีกว่า ดังนี้
ดอกเบี้ยถูกว่า ผ่อนสบายกว่า จ่ายขั้นต่ำเพียง 10% แถมอัตราดอกเบี้ยที่ลดต้นลดดอก และมีระยะเวลาการชำระหนี้ที่แน่นอนไม่ยืดเยื้อ
ไม่ต้องมีบุคคล หรือหลักทรัพย์ค้ำประกัน ขอเพียงท่านเป็นพนักงานประจำ มีเงินเดือนประจำขั้นต่ำเพียง 30,000 บาท มีการใช้บัตรเครดิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี มีวงเงินอนุมัติในบัตรสูงสุด 5 เท่าของรายได้ประจำหรือ 150,000 บาท
สรุปเมื่อท่านได้ขอสินเชื่อเพื่อการโอนหนี้บัตรเรียบร้อยแล้ว ท่านจะต้องจำไว้เสมอว่า ต้องนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และชีวิตของเราจะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน แม้ว่าจะได้รับเงินกู้ที่มีอัตราดอกเบี้ยที่ถูกลง แต่เราก็ยังต้องมีภาระในการผ่อนชำระอยู่เช่นเดิม ดังนั้นเราต้องมีวินัยในการผ่อนและการใช้เงินอย่างดี โดยเฉพาะการผ่อนที่ตรงเวลา และสม่ำเสมอเพื่อให้สมกับโอกาสที่ได้รับในการเริ่มชีวิตใหม่ ซึ่งอาจไม่มีอีกในชีวิตนี้…