สิทธิประโยชน์จากการมีบัตรเครดิต
กันยายน 18, 2017
ต้องทำงานมาแล้วกี่เดือนถึงจะสามารถสมัครบัตรเครดิตได้
กันยายน 18, 2017

ถ้าไม่มีเงินเดือน สามารถสมัครทำบัตรเครดิตได้หรือไม่

คุณสมบัติเบื้องต้นในการสมัครบัตรเครดิตที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด คือ

  • ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี
  • มีรายได้ประจำไม่น้อยกว่า 15,000 บาทต่อเดือน

ซึ่งในคำว่า “รายได้ประจำ” หมายถึง การมีรายได้เข้ามาสม่ำเสมอในทุกๆเดือน อีกทั้งต้องสามารถแสดงเอกสารถึงแหล่งที่มาและความสม่ำเสมอของรายได้ เนื่องจากเอกสารนี้เป็นสิ่งสำคัญที่จะเป็นเครื่องการันตีว่า ผู้ถือบัตรเครดิต จะมีความ สามารถในการชำระหนี้

เพราะการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในทุกรูปแบบนั้น เรารู้กันดีว่า “เป็นการใช้เงินอนาคต” โดยเป็นการยืมเงินมาจากธนาคารที่อนุมัติและสามารถใช้ได้ตามวงเงินที่ธนาคารกำหนดเท่านั้น ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจว่าเหตุใด พนักงานเงินเดือนที่มีรายได้ประจำเพียง 20,000 บาท ถึงมีโอกาสผ่านการอนุมัติบัตรเครดิตมากกว่า ผู้ประกอบอาชีพอิสระที่มีรายได้บางเดือนมากกว่า  6 หลัก นั่นก็เพราะ ความสม่ำเสมอของรายได้ที่โชว์ใน “สลิปเงินเดือน” เป็นเสมือนใบเบิกทางให้สามารถทำธุรกรรมสินเชื่อได้เกือบทุกประเภทนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ไม่ได้เป็นมนุษย์เงินเดือน ไม่ว่าจะประกอบอาชีพเป็นเจ้าของกิจการ ผู้ถือหุ้น หรือ ฟรีแลนซ์  ก็อย่าเพิ่งน้อยใจไปค่ะ แม้ว่าเราจะไม่มีสลิปเงินเดือนเป็นใบเบิกทาง แต่หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีรายได้ ก็สามารถสมัครบัตรเครดิตได้เช่นกัน ซึ่งขั้นตอนการสมัคร กฏเกณฑ์เงื่อนไข รวมทั้งเอกสารที่ต้องเตรียมก็ไม่ยุ่งยาก ในบทความนี้จะรวบรวมวิธีการสมัครบัตรเครดิตพร้อมเคล็ดลับ สำหรับผู้ไม่มีเงินเดือน มาฝากกันค่ะ

โดยในบทความนี้จะแยกประเภทของรายได้ เป็น 3 หัวข้อใหญ่ ดังนี้

  1. รายได้จากการเป็นเจ้าของกิจการ

เจ้าของกิจการแม้ว่าจะไม่มีสลิปเงินเดือนเป็นเอกสารยืนยันถึงที่มาและความมั่นคงของรายได้ แต่เจ้าของกิจการมีเอกสารการจดทะเบียบพาณิชย์หรือทะเบียนนิติบุคคล ซึ่งแสดงรายละเอียดของประเภทธุรกิจเป็นเอกสารยืนยันถึงที่แหล่งที่มาของรายได้เช่นกัน  ดังนั้น หากท่านใดเป็นเจ้าของกิจการและต้องการสมัครบัตรเครดิต ต้องเตรียมเอกสารทางการเงิน ดังนี้

  • สำเนาการจดทะเบียนพาณิชย์ / สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล
  • สำเนา Statement บัญชีที่ใช้ในธุรกิจ เพื่อแสดงรายรับรายจ่าย ย้อนหลัง 6 เดือน
  • สำเนา Statement บัญชีส่วนตัว เพื่อแสดงรายรับรายจ่าย ย้อนหลัง 6 เดือน

เคล็ดลับ : สำหรับท่านใดเป็นเจ้าของกิจการที่ไม่ได้จดทะเบียนพาณิชย์หรือนิติบุคคล ควรเลือกสมัครบัตรเครดิตในธนาคารที่ตนได้ทำธุรกรรมทางการเงินไว้ เช่น มีบัญชีเงินฝาก , บัญชีกระแสรายวัน หรือมีวงเงินกู้หมุนเวียนในธุรกิจ เพื่อให้ธนาคารสามารถนำธุรกรรมทางการเงินเหล่านี้เป็นตัวอ้างอิงในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อบัตรเครดิต อีกทั้งเซ็นยินยอมให้มีการตรวจเครดิตบูโร เพื่อเป็นการเช็คประวัติตนเองและสร้างความมั่นใจให้กับธนาคารอีกด้วย

  1. รายได้จากการเป็นผู้ถือหุ้น

สำหรับผู้ที่มีรายได้จากการเป็นผู้ถือหุ้น การยื่นเอกสารแสดง Statement บัญชีส่วนตัวเพื่อแสดงรายรับรายจ่ายอาจไม่เพียงพอต่อการพิจารณาอนุมัติบัตรเครดิต ดังนั้นผู้ที่มีรายได้จากการถือหุ้นจึงจำเป็นต้องยื่นเอกสาร ที่เรียกว่า “สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น” ให้กับธนาคารเพื่อที่ธนาคารจะได้รับรู้ถึงข้อมูลสำคัญในการเป็นผู้ถือหุ้น เช่น สัดส่วนผู้ถือหุ้นกี่เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งอาจต้องส่งเอกสาร Statement บัญชีที่ใช้ในธุรกิจ เพื่อให้ธนาคารสามารถประเมินความสม่ำเสมอของรายได้ของกิจการ ซึ่งสรุปเอกสารที่จำเป็นสำหรับผู้ที่มีรายได้จากการเป็นผู้ถือหุ้น มีดังนี้

  • สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น
  • สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล
  • สำเนา statement บัญชีที่ใช้ในธุรกิจ เพื่อแสดงรายรับรายจ่าย ย้อนหลัง 6 เดือน
  • สำเนา Statement บัญชีส่วนตัว เพื่อแสดงรายรับรายจ่าย ย้อนหลัง 6 เดือน

เคล็ดลับ : ผู้ที่มีรายได้จากการเป็นผู้ถือหุ้น ควรเลือกสมัครบัตรเครดิตกับธนาคารที่ท่านใช้บริการธุรกรรมด้านการเงินเป็นส่วนใหญ่ เช่น มีบัญชีเงินฝาก มีบัญชีการซื้อขายหุ้น กองทุน หรือตราสารหนี้ เป็นต้น

  1. รายได้จากการประกอบอาชีพอิสระหรือ ฟรีแลนซ์

เมื่อขึ้นชื่อว่าประกอบอาชีพอิสระหรือฟรีแลนซ์ ความยากในการสมัครบัตรเครดิตคือ ความพร้อมของเอกสารที่แสดงแหล่งที่มารวมทั้งความสม่ำเสมอของรายได้ ซึ่งผู้ประกอบอาชีพฟรีแลนซ์หลายท่านอาจมีเอกสารเหล่านี้มากมายเพราะรับเงินจากบริษัทหรืออาจจะไม่มีเลยเพราะเลือกรับค่าจ้างเป็นเงินสด อย่างไรก็ตามหากฟรีแลนซ์ท่านใด ต้องการสมัครบัตรเครดิตจำเป็นต้องเตรียมเอกสารเบื้องต้น ดังนี้

  • statement บัญชีส่วนตัว เพื่อแสดงรายรับรายจ่าย ย้อนหลัง 6 เดือน
  • หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (ทวิ 50) แสดงรายได้ปีล่าสุด

 

เคล็ดลับ : การสมัครบัตรเครดิตให้ผ่าน 100% สำหรับผู้ประกอบอาชีพฟรีแลนซ์

  1. รู้จักปรับแต่ง Statement

จากตัวอย่างดังตารางนี้ หากพิจารณาเพียง Statement บัญชีส่วนตัวย้อนหลัง 6 เดือน จะเห็นได้ว่า แม้นาย A ผู้ประกอบอาชีพอิสระจะมีรายได้ย้อนหลัง 6 เดือนอีกทั้งเงินคงเหลือในบัญชีมากกว่า นาย B ผู้เป็นพนักงานประจำ แต่ธนาคารก็จะพิจาณาให้นาย B มีโอกาสผ่านการอนุมัติบัตรเครดิตมากกว่านาย A เนื่องจาก นาย B มีข้อได้เปรียบ คือ ความสม่ำเสมอ ของรายได้ นอกจากนี้รายได้ที่สม่ำเสมอในแต่ละเดือนจะเป็นตัวกำหนดถึงวงเงินในบัตรเครดิตอีกด้วย

ดังนั้นหากนาย A ต้องการความมั่นใจและจำนวนวงเงินที่แน่นอนในบัตรเครดิต นาย A ควรเลือกเปิดบัญชีเงินฝากเพื่อเดินบัญชีอย่างน้อย 6 เดือนโดยการฝากเงินเป็นจำนวนเท่าๆกันในทุกเดือน เช่น 25,000 บาท เพียงเท่านี้ นายเอ ก็จะความสม่ำเสมอของรายได้เทียบเท่ากับนาย B

  1. ใช้เงินฝากให้เป็นประโยชน์

อีกหนึ่งวิธี ในการสมัครบัตรเครดิตสำหรับผู้ไม่มีเงินเดือน และไม่ต้องการเสียเวลาในการเดินบัญชีหรือเตรียมเอกสารให้ยุ่งยาก ท่านอาจเลือกสมัครบัตรเครดิตในรูปแบบที่เรียกว่า “ การใช้เงินฝากในการค้ำประกัน”

ซึ่งวิธีการสมัครก็สามารถทำได้โดยง่าย เพียงคุณเลือกธนาคารที่ตั้งใจจะสมัครบัตรเครดิต และนำเงินไปฝากกับธนาคารนั้นๆ เพื่อเป็นการค้ำประกันเงินในบัตรเครดิต ธนาคารจะอนุมัติวงเงินให้เท่ากับจำนวนเงินที่คุณฝากแต่ต้องไม่น้อยกว่าขั้นต่ำที่ธนาคารได้กำหนดไว้ โดยการฝากเงินนี้คุณสามารถเลือกประเภทการฝากเงินได้ด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น การฝากแบบออมทรัพย์ หรือฝากประจำ 3 เดือน ,  6 เดือน ,1 ปี หรือสูงสุด 3 ปีก็ได้ โดยดอกเบี้ยก็จะยังได้รับตรงตามเงื่อนไขประเภทบัญชีที่เปิด เพียงแต่คุณจะไม่สามารถนำเงินออกมาใช้ได้จนกว่าจะทำการยกเลิกบัตรเครดิต ดังนั้นเอกสารสำคัญที่ต้องเตรียม หากต้องการสมัครบัตรเครดิตด้วยวิธีนี้ คือ

  • สำเนาบัตรประชาชนและสมุดบัญชีเล่มที่ใช้ค้ำประกัน

เมื่อทุกท่านได้อ่านบทความจบแล้ว คงเห็นพ้องต้องกันแล้วใช่มั้ยคะว่า ถึงแม้เราจะไม่ได้ประกอบอาชีพเป็นพนักงานประจำที่มีเงินเดือน แต่เราก็สามารถสมัครบัตรเครดิตได้และโอกาสที่ธนาคารจะอนุมัติบัตรเครดิตก็มีสูงไม่แตกต่างจากการเป็นพนักงานมีเงินเดือนเลย เพียงแต่ท่านเตรียมเอกสารให้ถูกต้องประกอบกับนำเคล็ดลับที่กล่าวมาทั้งหมดมาปรับใช้ให้เหมาะกับอาชีพของตัวเอง เพียงเท่านี้การขอสินเชื่อบัตรเครดิตก็เป็นเรื่องที่ไม่ว่าอาชีพไหนๆก็สามารถทำได้ใช่มั้ยคะ

บัตรเครดิต และบัตรกดเงินสด