

ในปัจจุบัน ด้วยจำนวนผู้ใช้บัตรเครดิตที่เพิ่มมากขึ้นและมีความหลากหลาย ธนาคารส่วนใหญ่จึงนำเสนอบัตรเครดิตออกมามากมายในรูปแบบที่แตกต่างกันเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค จึงไม่น่าแปลกใจ หากท่านก้มลงมองที่กระเป๋าตังของตัวเองแล้ว พบว่า ตัวเองนั้นก็มีบัตรเครดิตอยู่หลายใบ
เพราะบัตรเครดิตแต่ละใบมีลักษณะการใช้งาน ประโยชน์และความเหมาะสมกับแต่ละคนไม่เหมือนกัน ดังนั้น เพื่อเลือกบัตรเครดิตให้เหมาะสมกับตัวเอง ในบทความนี้เรามีเคล็ดลับดีๆมาฝากกันค่ะ
อันดับแรก เราต้องรู้จัก Life Style ของตัวเองเพื่อเลือกใช้บัตรเครดิตให้เกิดประโยชน์สูงที่สุด ซึ่งในที่นี้จะแบ่งลักษณะการใช้งานออกเป็น 5 ประเภทใหญ่ๆ ดังนี้
หากชอบเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ : ควรเลือกบัตรเครดิตที่สามารถสะสมไมล์ร่วมกับสายการบิน โดยไมล์ที่สะสมสามารถนำไปแลกตั๋วเครื่องบินเพื่อใช้เดินทางโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หรือนำไปเป็นส่วนลดหรืออัพเกรดการบริการจาก Economy เป็น Business class ได้
หากชอบเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ : โดยใช้รถยนต์เป็นส่วนใหญ่ควรเลือกบัตรเครดิตที่ร่วมรายการกับสถานีน้ำมัน เช่น ส่วนลดค่าน้ำมันเมื่อเติมถึงยอดที่กำหนด ทำให้เราสามารถประหยัดเงินค่าน้ำมันได้อีกด้วย
การใช้บัตรเครดิตในชีวิตประจำวันหากเลือกบัตรเครดิตที่เหมาะสมกับตัวเองและอาชีพก็จะเป็นประโยชน์เป็นอย่างมาก เช่น หากประกอบอาชีพเป็นเซลล์ ต้องมีการเลี้ยงรับรองลูกค้าหรือมีค่าใช้จ่ายน้ำมันทุกวัน การสำรองจ่ายเป็นเงินสดแล้วมาเบิกกับทางบริษัททีหลังอาจจะก่อให้เกิดปัญหาสภาพคล่องได้ ดังนั้นหากเลือกใช้บัตรเครดิตนอกจากจะยืดระยะเวลาการจ่ายเงินสดออกไปแล้ว ยังได้ส่วนลดกับร้านค้าและสถานีน้ำมันที่ร่วมรายการด้วย
หากเป็นคนที่ชอบช๊อปปิ้งออนไลน์ ควรเลือกใช้บัตรเครดิตที่มีระบบเครือข่ายการชำระเงินหรือ “Payment Gateway” ที่เป็นสากล เช่น Visa หรือ master card เพราะทั้งสองระบบนี้มีเครือข่ายมากกว่า 28 ล้านรายจากร้านค้าและครอบคลุมมากกว่า 200 ประเทศทั่วโลก
หากเป็นคนชอบ Shopping ที่ห้างสรรพสินค้า หรือมีร้านประจำ ควรเลือกใช้บัตรเครดิตที่ร้านค้าหรือห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆเป็นผู้ออกให้โดยตรงเพื่อให้ได้รับสิทธิพิเศษในส่วนลดต่างๆ
หากเป็นผู้ที่มีรายได้น้อย หรือมีภาระการใช้จ่ายมากทำให้มีสภาพคล่องทางการเงินต่ำในบางครั้ง ควรเลือกบัตรเครดิตที่ร่วมรายการผ่อนชำระ 0 % หรือเลือกบัตรเครดิตโดยเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยในแต่ละเจ้า
หากต้องการประโยชน์จากบัตรเครดิต คือการประหยัดค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน ควรเลือกบัตรเครดิตโดยเปรียบเทียบสิทธิพิเศษที่เรียกว่า การจ่ายเครดิตเงินคืนหรือ Cash back โดยสามารถแลกรับเครดิตเงินคืนได้สูงสุกถึง 5 % เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด
เมื่อทราบลักษณะความต้องการใช้งานบัตรเครดิตของตนเองแล้ว อันดับต่อไปคือ การทำความรู้จักประเภทของบัตรเครดิต เพื่อที่จะเลือกใช้งานได้อย่างถูกต้อง ซึ่งในปัจจุบันบัตรเครดิตนั้นมีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งเราจะจำแนกเป็น 3 ประเภทหลักๆ ดังนี้
หากหยิบบัตรเครดิตขึ้นมาสักใบสิ่งแรกที่เห็นแน่นอนว่า จะต้องเป็นตราสัญลักษณ์ที่ปรากฏเด่นชัดอยู่บนบัตร ซึ่งนั่นก็คือเครือข่ายชำระเงินหรือ Payment gateway ซึ่งในบทความนี้จะพูดถึงเพียง 4 ระบบที่สำคัญ คือ
ซึ่งหากค้นพบว่าตัวเองเป็นผู้ใช้งานบัตรเครดิตเพื่อการท่องเที่ยว, ชอบ shopping ออนไลน์หรือเป็นนักธุรกิจ ก็จำเป็นต้องเลือกบัตรเครดิตประเภทนี้เพื่อให้รองรับการใช้จ่ายได้ทั่วโลก
บัตรเครดิตประเภทนี้เป็นบัตรเครดิตที่ออกให้โดยตรงจากร้านค้า หรือห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆเช่น Central credit card , Big C platinum , Lotus platinum ซึ่งมีจุดประสงค์ในการส่งเสริมการขายในร้านค้านั้นๆโดยอาจให้สิทธิประโยชน์เป็นการผ่อนจ่าย , ส่วนลดในการซื้อสินค้าและบริการหรือจ่ายเป็นเครดิตเงินคืน เป็นต้น
ดังนั้นหากค้นพบว่าตัวเองเป็นมี Life style ชอบ Shoppingในห้างสรรพสินค้าเป็นส่วนใหญ่การเลือกทำบัตรเครดิตโดยตรงกับทางร้านก็จะได้สิทธิพิเศษทางด้านส่วนลดมากกว่าบัตรเครดิตแบบอื่น
คือบัตรเครดิตที่สามารถเบิกเงินสดได้โดยจะต้องทำการเบิกหรือกดจากตู้หรือกับธนาคารที่เป็นผู้ออกบัตร โดยบัตรเครดิตประเภทนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาระการใช้จ่ายต่อเดือนมากหรือต้องการเงินเพื่อหมุนในธุรกิจ แต่เนื่องด้วยการใช้สินเชื่อบัตรเครดิตประเภทนี้มีอัตราดอกเบี้ยที่สูงดังนั้นก่อนการใช้งานจึงควรศึกษาและเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยในแต่ละธนาคาร
เป็นบัตรที่ใช้ชำระค่าสินค้าและบริการโดยหักเงินจากบัญชีเจ้าของบัตรโดยตรง ไม่มีสินเชื่อในการชำระค่าสินค้าและไม่เสียดอกเบี้ย เหมาะสำหรับ การใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ที่ต้องการความสะดวกสบายในการไม่ต้องถือเงินสดและสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนได้
เห็นมั้ยคะว่า แม้ชนิดและประเภทของบัตรเครดิตจะมีหลากหลาย แต่นั่นก็คือความได้เปรียบในฐานะผู้บริโภค เพราะสามารถเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานและ Life style ของตนเอง ทำให้บัตรเครดิตเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด